บ้านที่จัดอย่างเหมาะสมช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนขี้ลืมหรือมีสมาธิสั้น การออกแบบพื้นที่ให้ชัดเจน จะช่วยให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้โดยไม่สับสน
การจัดพื้นที่เก็บของอย่างเป็นระบบ
หัวใจสำคัญของการจัดบ้านสำหรับคนขี้ลืมคือการมี “บ้าน” ที่ชัดเจนสำหรับสิ่งของทุกชิ้น เพื่อลดโอกาสที่ของจะถูกวางทิ้งเกะกะและหายไป การจัดเก็บอย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนเสมอ
1. การจัดการสิ่งของ
- กล่องใส: เลือกใช้กล่องใส หรือกล่องที่มีฝาปิด เพื่อให้มองเห็นสิ่งของภายในได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดค้นหา
- ป้ายระบุชัดเจน: ควรติดป้ายระบุชัดเจนที่กล่องหรือลิ้นชักทุกอัน เช่น “เอกสารสำคัญ”, “สายชาร์จ”, “ของใช้ส่วนตัว” เพื่อให้ค้นหาได้รวดเร็วและเป็นระเบียบ
- ตู้ลิ้นชัก: แนะนำให้ใช้ตู้ลิ้นชักที่แบ่งช่องอย่างชัดเจนสำหรับของใช้แต่ละประเภท เช่น ลิ้นชักสำหรับเครื่องเขียน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
2. การใช้สีและหมวดหมู่
- สีสัญลักษณ์: ใช้สีสัญลักษณ์สำหรับหมวดหมู่ของ เช่น กล่องเก็บเอกสารค่าใช้จ่ายสีฟ้า และกล่องเอกสารส่วนตัวสีแดง
- การแบ่งหมวดหมู่: ใช้ตะกร้าซักผ้าแยกสีเสื้อผ้าขาว-สี หรือแยกเสื้อผ้าที่ต้องซักแห้ง การแบ่งหมวดหมู่ที่ชัดเจนและมีสัญลักษณ์ช่วยจำ จะช่วยลดเวลาในการค้นหาและทำให้การเก็บของเข้าที่กลายเป็นเรื่องง่าย
การกำหนดขอบเขตพื้นที่
การกำหนดขอบเขตของพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่แตกต่างกัน จะช่วยให้สมองจัดระเบียบได้ดีขึ้น ลดการเบี่ยงเบนความสนใจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำงานที่บ้าน
1. จัดโซนสำหรับงานแต่ละประเภท
- มุมทำงานหลัก: สร้างมุมทำงานหลักสำหรับงานเอกสาร หรือการใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์โดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้พื้นที่นี้ถูกรบกวนด้วยกิจกรรมอื่น ๆ
- มุมกิจกรรมแยกต่างหาก: หากมีงานอดิเรก เช่น การอ่านหนังสือ หรือการเล่นเกม ควรจัดมุมกิจกรรมแยกต่างหาก เช่น มุมอ่านหนังสือที่มีเก้าอี้สบายๆ หรือมุมสำหรับงานฝีมือที่มีอุปกรณ์จัดเก็บเฉพาะ
2. ลดสิ่งรบกวนในแต่ละโซน
การแยกโซนจะช่วยลดโอกาสที่ของจากกิจกรรมหนึ่งจะไปปะปนกับอีกกิจกรรมหนึ่ง ช่วยให้คุณจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำได้ดีขึ้นและลดความสับสนเมื่อต้องเปลี่ยนกิจกรรม การทำความสะอาดหรือจัดเก็บก็จะง่ายขึ้น เพราะแต่ละโซนมีหน้าที่ชัดเจน
ใช้ตัวช่วยอัจฉริยะในชีวิตประจำวัน
สำหรับคนขี้ลืม การมีเครื่องมือช่วยจำหรือระบบเตือนที่มองเห็นได้ง่ายและเข้าถึงสะดวก จะช่วยให้ไม่พลาดนัดหมายหรือสิ่งที่ต้องทำ และลดความกังวลในเรื่องการจดจำ
1. อุปกรณ์ช่วยจำแบบ Visual Cues
- กระดาษโน้ต (Sticky Notes): ใช้กระดาษโน้ตสีสันสดใสติดไว้บนตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย เช่น บนตู้เย็น ประตู หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ สำหรับเตือนสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน หรือของที่ต้องหยิบก่อนออกจากบ้าน
- ปฏิทินตั้งโต๊ะ/ติดผนัง: ใช้ปฏิทินตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ที่สามารถเขียนรายละเอียดได้ง่าย หรือปฏิทินติดผนังในจุดที่เดินผ่านบ่อยๆ เพื่อบันทึกนัดหมายสำคัญ วันเกิด หรือกำหนดชำระค่าใช้จ่าย
- ไวท์บอร์ด/กระดานดำ: ติดไวท์บอร์ดหรือกระดานดำขนาดเล็กในห้องครัวหรือทางเข้าบ้าน เพื่อจดรายการซื้อของ หรือข้อความเตือนสำหรับสมาชิกในครอบครัว
2. เทคโนโลยีช่วยเตือน
- แอปพลิเคชันมือถือ: ใช้แอปพลิเคชันประเภท To-Do List หรือ Calendar บนมือถือ เพื่อตั้งเตือนสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำในแต่ละวัน โดยสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแบบซ้ำ ๆ หรือมีเสียงเตือนได้
- นาฬิกาปลุกอัจฉริยะ: สำหรับเตือนการทำกิจกรรมที่ต้องใช้เวลา เช่น ตั้งเวลาปลุกเพื่อพักสายตาจากการทำงาน หรือเตือนให้รดน้ำต้นไม้
เฟอร์นิเจอร์และดีไซน์ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่คิดมาอย่างดี รวมถึงการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายและเข้าถึงง่าย จะช่วยลดความซับซ้อนในชีวิตประจำวัน และทำให้บ้านเป็นระเบียบได้เองโดยไม่รู้ตัว
1. เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน
- เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ: ใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน (Multi-functional Furniture) เช่น โต๊ะกลางที่มีลิ้นชักซ่อนของด้านล่าง หรือเตียงนอนที่มีช่องเก็บของในตัว ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บโดยไม่เปลืองเนื้อที่ และทำให้ของที่ใช้บ่อยอยู่ใกล้มือ
- ปรับเปลี่ยนการใช้งาน: การใช้โต๊ะที่พับได้ หรือโต๊ะที่สามารถขยายได้ จะช่วยปรับเปลี่ยนการใช้งานพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัว
2. การออกแบบที่เข้าถึงง่าย
- ชั้นวางเปิดโล่ง: เลือกชั้นวางของแบบเปิดที่มองเห็นของได้ชัดเจน ช่วยให้คุณรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ไม่ต้องค้นหาและหยิบใช้ได้ทันที
- เฟอร์นิเจอร์ล้อเลื่อน: ตู้หรือรถเข็นที่มีล้อเลื่อน ช่วยให้เคลื่อนย้ายสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ ไปยังพื้นที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น และเก็บเข้าที่เดิมได้อย่างรวดเร็ว
การจัดบ้านเพื่อรองรับงานหลายอย่างพร้อมกัน
ในชีวิตที่ยุ่งเหยิง หลายคนต้องทำกิจกรรมหลายอย่างในพื้นที่เดียวกัน การจัดบ้านเพื่อรองรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความสับสนและเพิ่มความสามารถในการจดจ่อกับแต่ละงาน
- แบ่งโซนด้วย Visual Cues: ใช้เทคนิคการแบ่งโซนด้วยการเปลี่ยนสีผนัง ใช้พรม หรือใช้เฟอร์นิเจอร์โปร่ง ๆ มาช่วยกำหนดขอบเขตของพื้นที่แต่ละกิจกรรม เพื่อให้สมองแยกแยะได้ว่ากำลังทำอะไรในโซนใด
- ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์: ติดตั้งชั้นลอย ชั้นติดผนัง หรือตู้สูงแบบบิลต์อิน เพื่อจัดเก็บอุปกรณ์ทำงานหลายชิ้น หรือเอกสารต่าง ๆ โดยไม่กินพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ทำให้พื้นที่หลักมีความโล่งและเป็นระเบียบ
- ลดสิ่งรบกวนสายตา: จัดบ้านให้ลดสิ่งรบกวนสายตา (Visual Clutter) โดยการเก็บของที่ไม่ใช้ให้พ้นสายตา หรือจัดวางของที่จำเป็นให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การมีพื้นที่ที่ดูสะอาดตาจะช่วยให้คุณมีสมาธิกับการทำงานได้ดีขึ้น
การจัดบ้านสำหรับคนขี้ลืมหรือมีลักษณะคล้าย ADHD ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น ลดภาระทางสมอง และมองหาอะไรก็เจอในครั้งเดียว พื้นที่ที่เป็นระบบ มองเห็นได้ง่าย และมีจุดใช้งานชัดเจน จะช่วยให้การทำงานและกิจวัตรประจำวันราบรื่นขึ้นมาก บ้านที่ดีจึงควรออกแบบให้ “ช่วยเรา” ไม่ใช่ทำให้เราลำบากกว่าเดิม และเมื่อบ้านเป็นระเบียบ ชีวิตก็โล่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
